เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัท Intel ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเผยทิศทางตลาดไอทีและเผยกลยุทธการตลาด ที่ปีนี้ Intel จะลุยตลาดทั้งบนพีซี โน๊ตบุ๊ค และพวกสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตด้วย โดยปีนี้จะเป็นปีที่ Intel จะเริ่มทำตลาดพวกสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต เต็มรูปแบบ
นายสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย เผยข้อมูลที่ หลายท่านตั้งประเด็นนี้ว่า “สถานการณ์คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป มันตายหรือยัง ? ”
นายสนธิญา เผย “ จริงๆแล้ว Desktop มันโตขึ้นด้วยซ้ำไป จาก IDC ปีที่แล้ว ปี 2013 เป็นครั้งแรกในรอบ 7-8ปี ที่ desktop กลับมาแซง Notebook โดย Notebook ขายเพียง 43% และ Desktop เป็น 57% (ทั้งนี้ไม่รวมแบบ 2 In 1 )
ภาพนี้คือภาพรวมของ Desktop ในอดีตถึงปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยแนวโน้มเป็น All In One และ เป็นจอแบบ Touch Screen ด้วย ส่วนแบบ tower ที่เคยเห็นในอดีต ก็ยังมีขายอยู่โดยคนที่นิยมซื้อมักจะเป็นคอเกม ที่เน้นสเปคคอมแบบสูงๆเทพๆ ไม่เน้นประหยัดไฟแต่เน้นประสิทธิภาพในด้านกราฟฟิคอย่างเต็มที่
คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังคอมสามารถใช้ฟีเจอร์ Gesture ได้ (สั่งด้วยท่าทางได้ ) โดยมีกล้อง 3มิติถ่ายการเคลื่อนไหวของเรา รวมถึงการสั่งการด้วยเสียงด้วย ซึ่งซีพียู intel ที่ว่านี้ มีการใช้งานในรถยนต์ด้วย เช่น BMW เป็นต้น
เบื้องต้นคอม All In One เติบโตทั่วโลก เฉลี่ยปีละ 9% ต่อปี ตั้งแต่ปีนี้ ถึงปี 2016
คอมแบบใหม่จากแบบ tower ตัวใหญ่ๆมาเป็น กล่องแบบนี้ แต่ประสิทธิภาพสูงมากไม่ต่างจากตัวใหญ่ กินไฟแค่ 8W เท่านั้น (จากอดีต 240W)
และ การที่ All In One รองรับ Ready Mode Technology ซี่งต่อไปนี้ไม่ต้อง shutdown ปิดสนิทอีกต่อไป ใช้แบบ standby mode กินไฟต่ำมาก ซึ่งจะเห็นมากขึ้นในปลายปี
อนาคตอันใกล้จะได้พบ CPU แบบ 8 Core ด้วย เช่น Core i7 แบบ 8 Core ด้วย รวมถึงครึ่งปีหลังนี้ Intel เตรียมเปิดตัว 5th Gen Core Processor ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบกราฟฟิก Intel Iris Pro ที่ทำให้ผู้ใช้งานคอมไม่ต้องใช้การ์ดกราฟฟิกเสริม ตื่นตากับกราฟฟิก 3มิติขั้นสูง และ สามารถตัดต่อวีดีโออย่างรวดเร็ว รองรับการแสดงผลวีดีโอความละเอียดสูงแบบ 4K ด้วย
และปีนี้ Intel จะมีซีพียู Pentium ที่เป็น Unlock สามารถ Over Clock ได้ตัวแรกตัวเดียว และมีจำนวนจำกัด (Limited Edition ) ซึ่งออกมาเพื่อการเฉลิมฉลองแบรนด์ Pentium ครบรอบ 20ปี โดยจะได้เห็นในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งทาง Intel ประเทศไทยเตรียมนำ Pentium รุ่นพิเศษนี้มาทำตลาดในไทยด้วย
ในช่วงนี้ทุกร้านคอมจะมี Notebook แบบ 2 In 1 มากขึ้น ซึ่งมีหลายแบบมาก เช่น แบบถอดได้ หรือแบบพับได้ หรือแบบหมุนได้ จาก Notebook กลายเป็นแท็บเล็ต ซึ่งมีให้เลือกเยอะมาก
ในส่วนของ Mobility Intel พร้อมลุยตลาด สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตด้วย เตรียมใช้ซีพียูแบบ 64 บิต ด้วย รวมถึงส่วนต่างๆโดยเฉพาะ Security ที่ Intel ซื้อ Macafee ซึ่งใครสนใจผู้สามาถโหลด Mcafee Mobile Security ลงสมาร์ทโฟนฟรี รองรับการค้นหาโทรศัพท์ด้วย
และมีชิพ Network ของตัวเองทั้ง 3G และ LTE ทั่วโลก นั่นหมายความว่า ชิพ Intel จะอยู่ในพวกสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน๊ตบุ๊ก 2 In 1 โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนราคาถูกราคาต่ำกว่า 3000 บาท จะมีโปรเซสเตอร์ ATOM ใหม่ ชื่อรหัส SoFia ซึ่งประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่าคู่แข่ง
ด้าน Data Center นี้จะ Move ไปในทิศทาง 3 ด้านคือ Cloud, Big Data และ Internet of Things โดยเฉพาะ Big Data นี้เติบโตแบบก้าวกระโดด ซี่ง intel เชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่ อุปกรณ์ไอทีกว่า 15,000 ล้านเครื่อง จะสามารถเชื่อมต่อ Internet ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมไอทีหันมาให้ความสำคัญกับ BIG DATA ในการวิเคราะห์ จัดการข้อมูลดิบต่างๆ นำมาสู่ Internet of Thing
ยุทธศาสตร์ของ Intel ในตลาดไอทีไทย
Intel เชื่อว่าคนไทยมีกำลังซื้อ เพียงแต่ทำอย่างไรให้เกิดการจับจ่าย อย่างแรกคือได้รายได้จากขาย CPU ในประเทศไทย และ แน้วโน้ม ซื้อ desktop จอใหญ่เอาใจพวกคอเกม อีกตัวคือ Smartphone และ tablet ซึ่งปีนี้ Intel จะลุยเต็มรูปแบบ และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายมากขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าตระกูลมือถือ จากเมื่อก่อน Intel จะอยู่ในเฉพาะด้านตลาดคอมไอทีเท่านั้น รวมถึงการจัดโปรโมชั่น ชื่อ Blue Friday และ Golden Week และ Intel เอง เลือกที่จะลงทุนในประเทศไทย เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน
ที่มา http://www.it24hrs.com/2014/intel-thailand-it-2014/