วิธีแรก : หลีกเลี่ยงการใช้งานภาพที่หนัก
การออกแบบเว็บไซต์ที่มีภาพมากๆ จะทำให้เวลาในการโหลดเพจมากขึ้นตามไปด้วย แน่นอนว่าไม่เป็นผลดีแน่เพราะ Google เองก็เน้นการเร็วในการโหลดเพจมาเป็นปัจจัยหนึ่งเหมือนกัน วิธีที่ผมแนะนำคือหากเป็นรูปภาพที่ไม่สามารถตัดได้ให้ใช้ Save for web ใน photoshop เพื่อลดน้ำหนักภาพนั้นได้ และหากเป็นพวก BG Tab bar ต่างๆ ที่สามารถทำซ้ำได้ก็ให้ตัดเป็นภาพเล็กๆ แล้วใช้ CSS repeat images เอาครับ
วิธีที่สอง : ไม่ควรออกแบบลิงค์เมนูเว็บเป็นรูปภาพ
วิธีที่ง่ายที่สุดที่ Google จะตรวจสอบว่าเพจนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ก็คือ ข้อความลิงค์ของหน้านั้น ซึ่งถ้าหากทำเมนูเป็นภาพเฉยๆ Google ไม่รู้ว่าลิงค์นี้เกี่ยวกับเรื่องอะไรเป็นแน่ครับ
วิธีที่สาม : ย่อขนาดไฟล์ CSS และ JS ให้รวมเป็นไฟล์เดียวหรือน้อยที่สุด
จากที่ข้อหนึ่งได้เกริ่นไปแล้วว่า Google เอาความเร็วในการโหลดเพจมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการจัดลำดับด้วย และวิธีที่ง่ายๆที่จะให้ Google ถูกใจก็คือการลดขนาด CSS และ JS ให้เป็นไฟล์เดียว หากมีหลายๆไฟล์ก็จะเพิ่มเวลาในการเรียกไฟล์เหล่านั้นเพิ่มขึ้นด้วย และถ้าเรารวมมันเป็นไฟล์เดียวเวลาในการเรียกจาก Server ก็น้อยลงด้วย
วิธีที่สี่ : พยายามให้เนื้อเว็บอยู่ใกล้กับ Header Tag
ส่วนมากจะพบว่าเว็บที่จัดลำดับเนื้อหาให้อยู่ใกล้กับ Header Tag จะมีประสิทธิภาพกว่าเว็บที่จัดเนื้อหาเว็บไปอยู่ในส่วนล่างๆ
วิธีที่ห้า : ใช้ CSS Sprite
เป็นวิธีัที่สำคัญลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ครับสำหรับการทำ CSS Sprite ก็คือการรวมหลายๆ ภาพมาไว้เป็นภาพเดียวกันซะเลย เพื่อช่วยลดระยะเวลาให้การโหลดภาพภายในหน้าเว็บ ปัจจุบันเราก็ไม่ต้องมานั่งรวมเองครับ มีเว็บที่ให้บริการนี้มากมาย ลองค้นหาดูใน google ครับ
วิธีที่หก : หลีกเลี่ยงการเอา Slogan ไว้ด้านบน
เพราะ สิ่งแรกที่ Google จะเห็นเกี่ยวกับเว็บคุณก่อนเลยก็คือส่วนบน ถ้าหากเป็นคำขวัญหรือสโลแกนสวยหรูมันไม่ได้บ่งบอกถึงลักษณะของเว็บคุณ ทางที่ดีควรใช้เป็น Keyword หรือ หากใช้เป็น Keyword ไม่ได้จริงๆในกรณีของเว็บองค์กรก็ควรให้มันเป็นรูปภาพแทน
วิธีที่สุดท้าย : หยุดใช้ text-indent:-9999px
คนส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้ในการอธิบายภาพให้เสิร์ชเอ็นจิ้นเข้าใจว่าคำในภาพนั่นหนะ เป็นคำนี้จริงๆ มันไม่ใช้เรื่องง่ายแน่ที่จะหลอกเสิร์ชเอ็นจิ้นอับดับ 1 และซับซ้อน อย่าง Google และทาง Google ก็ออกมาเตือนวิธีนี้หลายครั้งแล้ว ทางที่ดีควรใช้ alt tag แทนจะดีกว่า
7 วิธีง่ายๆ มีเพียงเท่านี้ครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย ไม่ค่อยได้โพสยาวๆเท่าไหร่ครับ
- ขอบคุณ จาก http://www.thaiseoboard.com/index.php?PHPSESSID=16ni0q7mipdjuet0hcs9d8j767&topic=204479.msg2809098;topicseen#top
การออกแบบเว็บไซต์ที่มีภาพมากๆ จะทำให้เวลาในการโหลดเพจมากขึ้นตามไปด้วย แน่นอนว่าไม่เป็นผลดีแน่เพราะ Google เองก็เน้นการเร็วในการโหลดเพจมาเป็นปัจจัยหนึ่งเหมือนกัน วิธีที่ผมแนะนำคือหากเป็นรูปภาพที่ไม่สามารถตัดได้ให้ใช้ Save for web ใน photoshop เพื่อลดน้ำหนักภาพนั้นได้ และหากเป็นพวก BG Tab bar ต่างๆ ที่สามารถทำซ้ำได้ก็ให้ตัดเป็นภาพเล็กๆ แล้วใช้ CSS repeat images เอาครับ
วิธีที่สอง : ไม่ควรออกแบบลิงค์เมนูเว็บเป็นรูปภาพ
วิธีที่ง่ายที่สุดที่ Google จะตรวจสอบว่าเพจนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ก็คือ ข้อความลิงค์ของหน้านั้น ซึ่งถ้าหากทำเมนูเป็นภาพเฉยๆ Google ไม่รู้ว่าลิงค์นี้เกี่ยวกับเรื่องอะไรเป็นแน่ครับ
วิธีที่สาม : ย่อขนาดไฟล์ CSS และ JS ให้รวมเป็นไฟล์เดียวหรือน้อยที่สุด
จากที่ข้อหนึ่งได้เกริ่นไปแล้วว่า Google เอาความเร็วในการโหลดเพจมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการจัดลำดับด้วย และวิธีที่ง่ายๆที่จะให้ Google ถูกใจก็คือการลดขนาด CSS และ JS ให้เป็นไฟล์เดียว หากมีหลายๆไฟล์ก็จะเพิ่มเวลาในการเรียกไฟล์เหล่านั้นเพิ่มขึ้นด้วย และถ้าเรารวมมันเป็นไฟล์เดียวเวลาในการเรียกจาก Server ก็น้อยลงด้วย
วิธีที่สี่ : พยายามให้เนื้อเว็บอยู่ใกล้กับ Header Tag
ส่วนมากจะพบว่าเว็บที่จัดลำดับเนื้อหาให้อยู่ใกล้กับ Header Tag จะมีประสิทธิภาพกว่าเว็บที่จัดเนื้อหาเว็บไปอยู่ในส่วนล่างๆ
วิธีที่ห้า : ใช้ CSS Sprite
เป็นวิธีัที่สำคัญลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ครับสำหรับการทำ CSS Sprite ก็คือการรวมหลายๆ ภาพมาไว้เป็นภาพเดียวกันซะเลย เพื่อช่วยลดระยะเวลาให้การโหลดภาพภายในหน้าเว็บ ปัจจุบันเราก็ไม่ต้องมานั่งรวมเองครับ มีเว็บที่ให้บริการนี้มากมาย ลองค้นหาดูใน google ครับ
วิธีที่หก : หลีกเลี่ยงการเอา Slogan ไว้ด้านบน
เพราะ สิ่งแรกที่ Google จะเห็นเกี่ยวกับเว็บคุณก่อนเลยก็คือส่วนบน ถ้าหากเป็นคำขวัญหรือสโลแกนสวยหรูมันไม่ได้บ่งบอกถึงลักษณะของเว็บคุณ ทางที่ดีควรใช้เป็น Keyword หรือ หากใช้เป็น Keyword ไม่ได้จริงๆในกรณีของเว็บองค์กรก็ควรให้มันเป็นรูปภาพแทน
วิธีที่สุดท้าย : หยุดใช้ text-indent:-9999px
คนส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้ในการอธิบายภาพให้เสิร์ชเอ็นจิ้นเข้าใจว่าคำในภาพนั่นหนะ เป็นคำนี้จริงๆ มันไม่ใช้เรื่องง่ายแน่ที่จะหลอกเสิร์ชเอ็นจิ้นอับดับ 1 และซับซ้อน อย่าง Google และทาง Google ก็ออกมาเตือนวิธีนี้หลายครั้งแล้ว ทางที่ดีควรใช้ alt tag แทนจะดีกว่า
7 วิธีง่ายๆ มีเพียงเท่านี้ครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย ไม่ค่อยได้โพสยาวๆเท่าไหร่ครับ
- ขอบคุณ จาก http://www.thaiseoboard.com/index.php?PHPSESSID=16ni0q7mipdjuet0hcs9d8j767&topic=204479.msg2809098;topicseen#top